วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ธุรกิจจำหน่ายแซนวิซ

 

แซนวิซ 10 บาท เป็นยังไง?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแซนวิชที่จะขายได้ในราคา 10 บาท นั้น จะเป็นแซนวิชขนาดเล็ก แซนวิชมินิ แซนวิชห่มผ้า เป็นต้น หรือไม่ก็ใช้วัตถุดิบที่มีราคาค่อนข้างถูก เพราะจะต้องควบคุมต้นทุนให้สมดุลกับราคาขาย จะได้ไม่ขาดทุน

แซนวิช 10 บาท มีไส้อะไรบ้าง?

หากจะขายแซนวิชในราคา 10 บาท สามารถทำเป็นไส้อะไรได้บ้าง? เนื่องจากงบประมาณและต้นทุนที่จำกัดดังนั้นไส้ของแซนวิชจึงจะมีประมาณ 1-2 อย่างใน 1 ชิ้น ตัวอย่างเช่น

  • แซนวิชโบราณ
  • แซนวิชหมูหยอง
  • แซนวิชไส้กรอก
  • แซนวิชไส้กรอกโบโลน่า
  • แซนวิชปูอัด
  • แซนวิชฝอยทอง

แซนวิช 10 บาท ต้นทุน ?

งบการลงทุนเบื้องต้นที่ใช้ไม่เกิน 500 บาทในการลงต้นขายแซนวิชเริ่มต้น ซึ่งราคาวัตถุดิบอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม งบดังกล่าวไม่รวมค่าเช่นพื้นที่ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าเดินทาง ซึ่งจะเป็นงบประมาณในการซื้อวัตถุดิบ ดังต่อไปนี้

  • ขนมปังแซนวิช ราคาประมาณ 25 – 28 บาท/ปอนด์
  • ไส้กรอก ราคาประมาณ 75 บาท แพ็ค 36 ชิ้น (ราคาที่เจอเป็นยี่ห้อคริสปี้ทอง)
  • โบโลน่า ราคาประมาณ 55 – 65 บาท ขนาดประมาณ 450 กรัม
  • ซอสมะเขือเทศ ราคาประมาณ 25 – 32 บาท ขนาด 1000 กรัม
  • มายองเนส ราคาประมาณ 29 บาท ขนาด 400 กรัม (ราคาที่เจอเป็นยี่ห้อ เพียว มายองเนส)
  • ผักกาดหอม ราคาประมาณ 40 บาท/กิโลกรัม (ซื้อแบบแบ่งขายมาราคาจะถูกลงอีก)
  • ถุงห่อแซนวิช ราคาประมาณ 30 – 35 บาท แพ็ค 50 ใบ
  • ถุงพลาสติก ราคาประมาณ 25 – 30 บาท

แหล่งซื้อวัตถุดิบ

  • แมคโคร ศูนย์รวมสินค้าครบครันราคาถูก มีหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อได้ตามความต้องการ เรียกได้ว่าไปที่เดียวได้ของครบ จบ แน่นอน
  • ร้านขายส่งออนไลน์ สินค้าออนไลน์จะมีราคาถูกกว่าราคาหน้าร้านในท้องตลาดดังนั้นหากไม่เร่งรีบ สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบ เช่น ขนมปัง ซอส มายองเนส ถุงพลาสติก เป็นต้น จากร้านค้าขายส่งออนไลน์ได้ ซึ่งจะมีหลากหลายแบรนด์หลายยี่ห้อให้เลือก
  • ตลาดสดใกล้บ้าน ตลาดสดในปัจจุบันแม่จะดูเงียบเหงาลงไปบ้างเพราะมีร้านค้าออนไลน์เข้ามาแบ่งพื้นที่การตลาด แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังคงเป็นสถานที่ที่สามารถหาสินค้าอย่าง ร้านขายส่งขนมปังราคาถูก ร้านขายส่งแพคเกจจิ้ง ร้านขายส่งผัดสด ซอสยี่ห้อต่างๆหรือร้านขายส่งไส้กรอก ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาทำแซนวิชได้
  • คำแนะนำเพิ่มเติม
  • คำนวนต้นทุนให้รอบคอบ เนื่องจากการจะขายในราคา 10 บาทได้นั้น ต้นทุนคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากต้องคิดคำนวนให้รอบคอบ การประหยัดต้นทุนสามารถทำได้หลายทาง เช่น หันมาใช้ถุงห่อแซนวิชแทนที่จะใช้กล่องใส่แซนวิช เนื่องจากกล่องแซวิชนั้นมีราคาที่สูงกว่ามาก หรือเลือกวัตถุดิบที่มีราคาถูกหรือไม่จำเป็นต้องเน้นแบรนด์หรือยี่ห้อมากนัก
    • สด สะอาด ปลอดภัย ด้วยความที่เราจะต้องควบคุมราคาต้นทุน ดังนั้นวัตถุดิบจึงมิอาจใช้ของที่มีราคาแพงหรือแบรนด์ดังได้ แต่ทว่าของถูกและดีนั้นก็มีอยู่ เพียงแค่เราต้องดูถี่ถ้วน ดูวันเดือนปีที่หมดอายุของสินค้า ดูว่ามีการแพ็คมาหนาแน่นหรือไม่ เพราะถ้าไม่หนาแน่นอาจมีการปนเปื้อน ซึ่งอาจทำให้รับประทานเข้าไปแล้วอาจท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้
    • ขายช่วงเช้า แซนวิชนั้นเป็นเมนูที่นิยมรับประทานกันในช่วงเช้าหรือระหว่างวัน ดังนั้นจึงต้องเน้นขายในตอนเช้าของวัน กลุ่มลูกค้าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน เลือกทำเลขายใกล้โรงเรียน สำนักงาน มหาวิทยาลัย เป็นต้น
    • นำสินค้าไปฝากขาย ในกรณีที่เปิดขายใหม่ๆยังไม่เป็นที่รู้จัก สามารถนำสินค้าไปฝากขายตามร้านที่รับฝากขาย เช่นร้านกาแฟ ร้านขายอาหารเช้า เป็นต้น ราคาก็ตกลงกันกับร้านที่รับฝากอาจจะให้ราคาส่งและร้านบวกราคาเพิ่มเองได้ หรือฝากขายตามร้านค้าชุมชน เช่น สหกรณ์หมู่บ้าน ร้านธงฟ้า ซึ่งร้านเหล่านี้โดยส่วนใหญ่จะให้ประชาชน ลูกบ้าน มาฝากขายสินค้าได้ฟรี
    • รับทำตามออเดอร์ หากทำขายจนเป็นที่ถูกปากแล้วและเริ่มมีลูกค้าประจำแล้วก็หารายได้เสริมจากการขายส่งอีกช่องทางหนึ่ง ให้คนที่สนใจรับไปขายต่อ หรือรับออเดอร์ทำส่งครั้งละมากๆตามที่ลูกค้าออเดอร์มา
    • สร้างช่องทางติดต่อ เช่น Facebook, line เป็นต้น เพื่อใช้ในการติดต่อกับลูกค้า หรือลูกค้าที่สนใจอยากสั่งทำจะได้ติดต่อมายังร้านของเราได้

วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ธุรกิจร้านหมูกระทะ

 เปิดร้านหมูกระทะ 1 ร้านต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง🐽

ร้านหมูกระทะ

นิยามคำว่าร้านหมูกระทะ สิ่งที่ต้องเตรียมคือวัตถุดิบ เช่น เนื้อหมู เนื้อหมู หมูสามชั้น คอหมูหมักงา ไก่ ตับหมู เซี่ยงจี๊ ปลาหมึกสด ปลาหมึกหลอด ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นไก่ เนื้อปลาสด ฯลฯ

ซึ่งต้นทุนของร้านหมูกระทะจะแปรผันกับขนาดของร้าน คำว่าร้านขนาดเล็กประมาณ 10 โต๊ะ , ร้านขนาดกลางประมาณ 20-30 โต๊ะ , ร้านขนาดใหญ่ประมาณ 30 โต๊ะขึ้นไป งบการลงทุนในส่วนของร้านแตกต่างกันไปตามการตกแต่ง

ทีนี้ลองมาดูอุปกรณ์เบื้องต้นและราคาอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี เช่น

  1. กระทะย่าง ราคาประมาณ 160 บาท/ใบ
  2. เตาอั้งโล่หมูกระทะ ราคาประมาณ 210 บาท/ใบ
  3. ที่คีบถ่าน ราคาประมาณ 15 บาท/ชิ้น
  4. ไม้คีบยกเตาถ่าน ราคาประมาณ 105 บาท/ชิ้น
  5. ตะแกรงรองเตา ราคาประมาณ 65 บาท/ชิ้น
  6. โต๊ะ เก้าอี้-เตา กระทะ (แบบสั่งทำ) ราคาตามแต่แบบที่ต้องการ
  7. โต๊ะยาวตั้งอาหาร
  8. จาน ช้อน ถ้วยน้ำจิ้ม
  9. ตะกร้าใส่ผัก ถาดลึกใส่อาหาร
  10. โถใส่น้ำจิ้ม ตะเกียบ
  11. หม้อขนาดใหญ่สำหรับใส่น้ำจิ้ม และต้มน้ำซุป

** ราคาดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลร้านค้าแบบออนไลน์ ซึ่งราคาที่แท้จริงต้องสอบถามจากผู้ขายโดยตรง **

เปิดร้านหมูกระทะ 1 ร้านลงทุนเท่าไหร่?

ร้านหมูกระทะ

เราคำนวณจากการเปิดร้านขนาดเล็กไม่เกิน 10 โต๊ะคนสนใจลงทุนต้องเตรียมอุปกรณ์เบื้องต้นตามที่กล่าวไปซึ่งเงินทุนสำหรับค่าอุปกรณ์ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท (ตามคุณภาพสินค้า) เป็นต้นทุนที่ยังไม่รวมค่าเช่า ค่าปลูกสร้างร้าน – ที่ดิน และควรมีทุนหมุนเวียนประมาณ 7,000 – 10,000 บาท/วัน โดยควรจะมีการจ้างแรงงานประมาณ 3 – 4 คนหากเป็นร้านขนาดเล็ก

นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือวัตถุดิบที่หลากหลายและวัตถุดิบนี่เองที่จะเป็นตัวแปรสำคัญของกำไรร้านหมูกระทะ ต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยต่อวันในแต่ละร้านนั้นไม่เท่ากัน บางร้านมีวัตถุดิบเดิมเหลือมากก็ซื้อเติมน้อยต้นทุนในวันนั้นก็จะน้อย ซึ่งหลักการที่ทำให้ร้านหมูกระทะมีกำไรควรให้ต้นทุนอาหารควรอยู่ที่ 25-30% และต้นทุนด้านแรงงานควรอยู่ที่ 15-20% นอกจากนี้ยังมีเรื่องต้นทุนคงที่ได้แก่ ค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน เฉลี่ยแล้วควรอยู่ที่ 15-20% รวมถึงต้นทุนผันแปร เช่นค่าแก๊ส ค่าน้ำ ค่าไฟ จิปาถะในแต่ละเดือนควรอยู่ที่ 10-15%

ซึ่งร้านหมูกระทะหลายร้านนิยมให้บริการแบบ “บุฟเฟ่ต์” ก็ยิ่งต้องระวังเรื่อง “ต้นทุนอาหาร” และต้องควบคุมในเรื่องวัตถุดิบเหล่านี้ให้ดี เพราะคือตัวชี้วัดกำไรของร้านค้า และหากเป็นบุฟเฟ่ต์ก็ต้องมีเมนูอาหารที่หลากหลาย เช่น ข้าวผัด ส้มตำ ยำต่างๆ ฯลฯ ต้นทุนค่าอาหารในแต่ละวันก็จะสูงขึ้นได้อีกด้วย เราจึงควรคำนวณได้ว่าปริมาณลูกค้าในแต่ละวันที่แท้จริงของเราอยู่ที่เท่าไหร่จะได้ควบคุมต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีคุณภาพ

รู้ต้นทุนเบื้องต้นแล้วมีวิธีขายอย่างไรร้านหมูกระทะมีกำไร?

ยอดขายในแต่ละวันก็ขึ้นอยู่กับขนาดร้านเป็นสำคัญ การตั้งเป้ายอดขายในแต่ละวันขั้นต่ำต้องประมาณ 10,000 บาท ซึ่งยอดขายนี้ หากนำมาหักลบกับต้นทุนเมื่อคิดเปอร์เซ็นต์จะพบว่า ยอดขาย 10,0000

  • ต้นทุนอาหารควรอยู่ที่ 2,500 – 3,0000 บาท
  • ต้นทุนแรงงานควรอยู่ที่ 1,500 – 2,500 บาท
  • ต้นทุนคงที่ ควรอยู่ที่ 1,500 – 2,500 บาท
  • ต้นทุนผันแปร ควรอยู่ที่ 1,000 – 1,500 บาท

ซึ่งการตั้งเป้า “ยอดขาย” จะทำให้ประมาณการได้ว่าเราจะมีกำไรต่อวันเท่าไหร่ ซึ่งการจะฟันธงว่าให้กำหนดราคาขายต่อหัวของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการควรเป็นเท่าไหร่ต้องคำนึงถึง ค่าเช่าสถานที่ ค่าตกแต่งร้าน ค่าการตลาด ค่าราคาวัตถุดิบในแต่ละวัน รวมถึงคู่แข่งที่อยู่โดยรอบ สิ่งเหล่านี้ผู้ลงทุนต้องอาศัยความชำนาญในการหาเทคนิคลดต้นทุนตัวเองให้ได้มากที่สุดเพื่อโอกาสในการมีกำไรที่มากขึ้น

7 แนวทางทำร้านหมูกระทะให้คนฮิตติดใจ!

ร้านหมูกระทะ

1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า

ลูกค้าส่วนใหญ่อาจไม่ได้สนใจว่าราคาของเราจะถูกหรือแพงแต่เขาสนใจแค่ว่าคุ้มหรือไม่คุ้มมากกว่า ฉะนั้นไม่ว่าเราจะตั้งราคาต่อคนต่อหัวเท่าไหร่ จะ 99 บาท 299 บาท หรือ 399 บาท จงมั่นใจว่าทุกเมนูที่เสิร์ฟให้ลูกค้า จะทำให้เขารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

2. บริหารจัดการต้นทุนให้ดี

เราต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละเมนูมีต้นทุนเท่าไหร่ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง อย่างละกี่กรัม เมนูไหนออกมากหรือออกน้อย การรู้ความต้องการของลูกค้าที่สัมพันธ์กับเมนูสามารถลด food costs ได้

3. บริหารของเสียให้เหลือน้อยที่สุด

หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจคือลดขนาดของอาหารให้น้อยลง ก็อาจลดโอกาสที่ลูกค้าจะกินเหลือให้น้อยลงได้ เนื่องจากพฤติกรรมของคนกินมักชอบลองอะไรหลายๆ อย่าง การที่แต่ละเมนูมีขนาดไม่ใหญ่นัก จะทำให้ลูกค้ามีโอกาสลองเมนูอื่นๆ มากขึ้น

4. คิดให้ดีก่อนทำโปรโมชั่น

โดยเฉพาะพวกโปรลดราคา หรือมา 3 จ่าย 2 อะไรพวกนี้แม้จะดึงดูดลูกค้าได้แต่โอกาสเสี่ยงเจ๊งก็มีสูง วิธิที่ดีที่สุดคือเราต้องรู้ตัวเองว่าขายอะไรและขายใคร โปรโมชั่นอาจทำให้ได้ลูกค้าใหม่แต่ก็อาจเสียฐานลูกค้าเก่าได้เช่นกัน ดังนั้นโปรโมชั่นจึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนและไม่ควรมีบ่อยมากจนเกินไป

5. ใส่ใจความสะอาดของร้านและอาหารให้ดี

ร้านหมูกระทะส่วนใหญ่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ คือ ร้านอาหารแนวบริการตัวเอง จุดอ่อนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องของความสะอาดไม่ว่าจะเป็นตัวสถานที่ หรืออาหารทั้งอาหารสดและปรุงสำเร็จมันมีกรณีเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับการไม่สนใจเรื่องความสะอาดและท้ายที่สุดก็จบไม่สวยแน่ๆ

6. เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาจากลูกค้า

สิ่งที่ต้องเจอแน่ๆ คือปัญหาจากลูกค้า เพราะแต่ละคนที่มาใช้บริการมีความคิดและนิสัยที่แตกต่าง ลูกค้าบางคนก็มีกลโกงร้านค้า เช่น มากิน 3 คน แต่ตอนจ่ายบอกว่ามา 2 คน หรือบางคนกินเหลือกินทิ้ง และก็ไม่ยอมจ่ายค่าปรับให้กับร้านตามกติตาที่กำหนด และอีกหลากหลายรูปแบบปัญหาที่คนเปิดร้านหมกระทะต้องเจอ แต่ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบไหนอย่างไรในฐานะงานบริการเราต้องแก้ปัญหาอย่างใจเย็น ซึ่งการอารมณ์ร้อนไปกับลูกค้าบางคนอาจทำให้ร้านของเราเสียชื่อเสียงได้ยิ่งในยุคโซเชี่ยลแบบนี้ต้องระวังให้มาก

7. ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

การที่ร้านหมูกระทะเป็นการลงทุนยอดฮิตเราย่อมหนีไม่พ้นคู่แข่ง สิ่งสำคัญคือเราต้องพัฒนาร้านค้า พัฒนาการบริการ พัฒนาสินค้า เช่น มีเมนูใหม่ๆ บริการใหม่ๆ โปรโมชั่นใหม่ๆ และมีการตลาดยุคใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเปิดร้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

“ธุรกิจหมูกระทะ.com” สูตรสำเร็จเปิดร้านแบบไม่ต้องลองผิดลองถูก

เขาว่ายุคนี้จะมัวลองผิดไม่ได้ต้อง “ลองถูก” เพื่อจะได้เปรียบกว่า ธุรกิจหมูกระทะ.com มาพร้อมสโลแกน “เรื่องหมูกระทะไว้ใจเรา” พร้อมให้บริการคนสนใจเปิดร้านหมูกระทะแบบครบวงจรทั้งการให้คำปรึกษาฟรี , การให้คำแนะนำต่างๆ การบริหารจัดการระบบ หน้าร้าน/หลังร้าน ให้มีกำไรสูงสุด แนะนำแหล่งวัตุดิบ ,แนะนำกลยุทธ์ด้านการตลาด , การจัดการเรื่องบัญชี , การพัฒนาสินค้าและบริการนอกจากนี้ยังมีสูตรเด็ดเคล็ดลับมัดใจลูกค้าตั้งแต่คำแรกด้วยรสชาติน้ำจิ้มสูตรไม่ใส่ซอสพริกเป็นสูตรเฉพาะที่พร้อมสอนให้กับผู้ที่สนใจลงทุน และยังมีแพคเกจการลงทุนให้เลือกได้ตามความต้องการ

วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย

 

4. ธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย

อีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงและน่าสนใจในปี 2023 ก็คือ การออกกำลังกาย ยิ่งเป็นช่วงหลังล็อคดาวน์ที่หลายธุรกิจกลับมาเปิดได้ตามปกติแล้ว ฟิตเนสและยิมต่าง ๆ ก็สามารถกลับมาเปิดใช้งานได้เช่นกัน ทำให้หลายคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายในช่วงโควิด-19 ต่างก็ต้องการกลับเข้ายิมเพื่อฟิตร่างกายและดูแลสุขภาพตามเดิม 

ข้อดีของธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกายก็คือ เป็นเทรนด์ที่ไม่เคยล้าสมัย เพราะยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และที่สำคัญสามารถสอนได้ทั้งคลาสออนไลน์และคลาสจริงในฟิตเนส ส่วนคลาสออกกำลังกายที่น่าสนใจในปี 2023 ก็มีมากมาย อาทิ

  • คลาสเรียนเต้น
  • โยคะ
  • พิลาทีส
  • เวทเทรนนิ่ง
  • ต่อยมวย

มากไปกว่านั้น คุณยังสามารถต่อยอดธุรกิจแนวนี้ได้ด้วยการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ เพราะมีหลายคนที่ต้องการคำปรึกษาด้านอาหารการกินและควบคุมน้ำหนัก เพื่อให้บริการด้านการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น



ธุรกิจสอนออนไลน์

 

3. ธุรกิจสอนออนไลน์

ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ส่งผลให้ไม่สามารถทำการเรียนการสอนแบบปกติได้ ทำให้การเรียนการสอนในโรงเรียนหรือแม้แต่การเรียนพิเศษ ติวเข้ม รวมถึงการเรียนเสริมทักษะอาชีพต่าง ๆ ต้องปรับตัวเข้าสู่การเรียนออนไลน์กันทั้งหมด และเชื่อว่าหลายคนก็คงเคยชินกับการเรียนออนไลน์กันไปแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์เทรนด์เกี่ยวกับเงินทุนธุรกิจการเรียนการสอนออนไลน์ว่าจะมีถึง 87,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งนั่นก็ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจสอนออนไลน์หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษานั้นมาแรงจริง ๆ และหากจะพูดถึงการสอนออนไลน์ที่น่าสนใจและสามารถสร้างเงินได้ดีก็มีมากมาย เช่น 

  • สอนภาษาอังกฤษออนไลน์
  • สอนทำยูทูป
  • สอนการตลาดออนไลน์
  • สอนทำเว็บ
  • สอนทำเพจเฟสบุ๊ค
  • ฯลฯ
ธุรกิจน่าสนใจ 2022 สอนออนไลน์

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

 

2. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

อาหารเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของคนเราอยู่แล้ว ธุรกิจอาหารจึงเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจและมาแรงในทุก ๆ ปี ซึ่งแม้จะเป็นในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ร้านอาหารที่ปรับตัวรับเดลิเวอรี่ก็สามารถพยุงร้านผ่านมาได้ 
อย่างไรก็ตาม แค่เพียงเดลิเวอรี่อาจจะไม่เพียงพอต่อวงการร้านอาหารในปี 2023 เพราะผู้ประกอบการเช่นคุณจะต้องมองให้กว้างขึ้นคือ คำนึงถึงการทำอาหารที่ทำง่ายและเก็บไว้ได้นาน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์อันเร่งรีบ 

ดังนั้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจในปี 2023 ก็ได้แก่

  • การผลิตอาหารสำเร็จรูป
  • ขายอาหารเพื่อสุขภาพแบบพร้อมทาน
  • ธุรกิจขนส่งอาหาร
  • ธุรกิจนำเข้าอาหาร
  • เครื่องดื่มสำเร็จรูป

นอกจากตัวอย่างเหล่านี้ยังมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกเพียบ หากตัวอย่างที่เรากล่าวมาข้างต้นยังไม่ตรงกับความสนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มวางแผนธุรกิจกันได้เลย!





ธุรกิจความงาม


 

1. ธุรกิจความงาม

ในช่วงปี 2020 - ปี 2022 ที่ผ่านมา ธุรกิจด้านความงามได้รับผลกระทบจาก​โควิด-19 กันแบบเต็ม ๆ แต่ความต้องการของลูกค้าก็ยังคงอยู่ ดังนั้นในปี 2023 ที่จะถึงนี้ ธุรกิจความงามนี่แหละที่จะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง หากรักในเรื่องความสวยความความงามอยู่แล้ว เล็งธุรกิจความงามไว้ได้เลย

ธุรกิจความงามที่น่าสนใจได้แก่

  • คลินิกทำฟัน
  • ร้านเสริมสวย
  • ทรีทเมนต์หน้า
  • เลเซอร์ขน
  • สปา
  • ฯลฯ

บอกเลยว่าทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ที่ไม่ได้เข้าร้านทำสวยทำหล่อในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกลับเข้าไปรับบริการแน่นอน ถ้าจะให้ดี ควรขายอุปกรณ์ให้ลูกค้าดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านด้วย เช่น เซ็ตทรีทเมนต์หน้า, เครื่องกำจัดขน และเซ็ตฟอกฟันขาว เป็นต้น

ประชาสัมพันธ์แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ








การพัฒนาเว็บไซต์ทางธุรกิจ

 30204-2103 การพัฒนาเว็บไซต์ทางธุรกิจ 2-2-3

(Website Development in Busisness)

จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้

1. เข้เข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการออกแบบ พัฒนาเว็บไซต์ในงานธุรกิจ

2. สามารถประยุกต์ใช้โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ในงานธุรกิจ

3. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ละเอียด รอบคอบ

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรู้เกี่ยวกับการออกแบบเพื่อพัฒนาเว็บไซต์

2. สามารถพัฒนาเว็บไซต์ทางธุรกิจ

คำอธิบายรายวิชา

          ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ แนวคิด ทฤษฎีและเทคโนโลยีการออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับทุกอุปกรณ์หลักการ องค์ประกอบ ภาษา ประเภท โครงสร้าง ข้อจำกัด ทดสอบ พัฒนา และปรับปรุงเว็บไซต์ ทางธุรกิจ

💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗

ธุรกิจจำหน่ายแซนวิซ

  แซนวิซ 10 บาท เป็นยังไง? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแซนวิชที่จะขายได้ในราคา 10 บาท นั้น จะเป็นแซนวิชขนาดเล็ก แซนวิชมินิ แซนวิชห่มผ้า เ...